พระมหาอุเทน ปัญญาปริทัตต์
ยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทยฯ ตระหนักในคุรค่าของการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานซึ่งสามารถยังบุคคลให้ลด ละ เลิก บาปอกุศลทั้งหลาย บังเกิดผลคือความสงบสุขได้อย่างแท้จริง
เมื่อผู้ปฏิบัติประจักษ์ผลด้วยตนเอง ก็พร้อมจะรินรสพระธรรมไปให้แก่ผู้อื่น ให้มีชีวิตที่สุขสงบร่มเย็นในพระพุทธศาสนาต่อไป
ยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทสไทยฯ จึงได้อาราธนา พระมหาอุเทน ปัญญาปริทัตต์ ป.ธ.9 วัดชนะสงคราม กรุงเทพฯ มาสอนวิปัสสนากรรมฐานให้แก่ผู้ที่มีศรัทธาในทางปฏิบัติ
การสอนของท่านดำเนินตามหลักสติปัฏฐาน 4 มีการเดินจงกรมสลับกับการนั่งสมาธิและควบคู่ไปกับการกำหนดอิริยาบถย่อย
พร้อมกับรับฟังธรรมบรรยายที่เกื้อกูลกับการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน
ศูนย์ ๒ ศูนย์วิปัสนายุวพุทธฯ ปทุมธานี
1. วางภารกิจการงานทั้งหลายไว้ที่บ้าน ตัดความวิตกกังวลทุกอย่างออกไป
2. วางยศศักดิ์ ฐานะ ตำแหน่งหน้าที่ไว้ไม่นำมาด้วย
3. วางความรู้เดิมทั้งหมดไว้ ทำตนเป็นคนว่าง่าย ประหนึ่งนักเรียนที่เริ่มเรียนเขียนอ่าน
4. ตระหนักว่าต้องทำตามระเบียบปฏิบัติ และตั้งใจปฏิบัติจนกว่าจะสิ้นสุดโครงการ
การเตรียมของใช้1. เสื้อผ้าชุดขาว ให้พอใช้ตลอดเวลาที่อยู่ในโครงการ
2. ของใช้เช่น สบู่ ยาสีฟัน แปรงสีฟัน หวี ผ้าเช็ดตัว ยาประจำตัว
3. เสื้อกันหนาว (ในห้องปฏิบัติเป็นห้องปรับอากาศ) ถุงเท้า
การแต่งกายเพื่อแสดงความเคารพต่อพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และสถานที่ ผู้ปฏิบัติควรแต่งกาย ด้วยเสื้อผ้าชุดขาว (ไม่มีลวดลายหรือตัวหนังสือ)
1.
สุภาพบุรุษ - สวมเสื้อผ้าชุดสีขาว กางเกงขายาว
- ไม่สวมกางเกงขาสั้น ขาสามส่วน และไม่คาดผ้าขาวม้า
2.
สุภาพสตรี - สวมเสื้อผ้าชุดสีขาว
ผ้าถุงหรือกระโปรงยาวเหนือข้อเท้า ห่มสไบ - ไม่สวมเสื้อผ้ารัดรูป เสื้อไม่มีแขน เสื้อบาง เสื้อคอกว้าง
- ไม่สวมใส่กางเกงขาสั้น,ขาสามส่วน