พระอาจารย์จิตร์ จิตฺตสํวโร
ยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทยฯ ตระหนักในคุณค่าของการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ซึ่งสามารถยังบุคคลให้ลด ละ เลิก บาปอกุศลทั้งหลาย บังเกิดผลคือความ สงบสุขได้อย่างแท้จริง
เมื่อผู้ปฏิบัติประจักษ์ผลด้วยตนเอง ก็พร้อมจะรินรสพระธรรมไปให้แก่ผู้อื่น ให้มีชีวิตที่สุขสงบร่มเย็นในพระพุทธศาสนาต่อไป
ยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทยฯ จึงได้อาราธนา คณะสงฆ์วัดป่าธรรมอุทยาน มาสอนวิปัสสนากรรมฐานให้แก่ผู้มีศรัทธาในทางปฏิบัติ
การสอนของท่านดำเนินตามหลักสติปัฏฐาน 4 มีการเดินจงกรมสลับกับการนั่งสมาธิและควบคู่ไปกับการกำหนดอิริยาบถย่อย พร้อมกับรับฟังธรรมบรรยายที่เกื้อกูลกับการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน
เพื่อปูพื้นฐานความเข้าใจในการปฏิบัติให้สามารถพัฒนาไปสู่การปฏิบัติที่เข้มข้นต่อ
โดยมีวัตถุประสงค์ของหลักสูตรดังนี้
วัตถุประสงค์
1. สร้างศรัทธาในการศึกษาและปฏิบัติธรรม
2. ให้ความรู้ความเข้าใจพื้นฐานของการเจริญสติปัฏฐาน
3. สามารถนำความรู้ไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพชีวิต แนวการสอน การสอนจะอาศัยสติปัฏฐาน 4 เป็นหลัก ด้วยการเดินจงกรมสลับกับการนั่งสมาธิ ควบคู่ไปกับการกำหนดอิริยาบถย่อย
พร้อมกับรับฟังธรรมบรรยายเกี่ยวกับการเจริญสติและหลักธรรมในทางพระพุทธศาสนา ผู้เข้าอบรมจะได้ฝึกการเจริญสติปัฏฐานเบื้องต้น และได้รับสารธรรมอันเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิต
ศูนย์ ๑ ยุวพุทธสำนักงานใหญ่กรุงเทพ
วันเปิดการอบรม
08.30-09.00 น. ลงทะเบียน / เข้าที่พัก
09.00-10.00 น. ปฐมนิเทศทั่วไป / กิจกรรมยุวพุทธ / แนะนำวิทยากรประสานงาน
10.00-11.00 น. พิธีสมาทานศีล / สมาทานกรรมฐาน
11.00-12.00 น. อาหารกลางวัน
12.45 น. พร้อมกันที่ห้องปฏิบัติธรรม
13.00-1600 น. พระอาจารย์แนะนำแนวทางการปฏิบัติ
16.00-18.00 น. น้ำปานะ / สรีระกิจ
18.00-20.00 น. สวดมนต์ทำวัตรเย็น / ฝึกเดินจงกรม/ นั่งกรรมฐาน
20.00-21.00 น. ธรรมบรรยาย
21.00 น. พักผ่อน
กำหนดการประจำวัน
04.00-04.30 น. ตื่นนอน / สรีระกิจ
04.30-05.00 น. สวดมนต์ทำวัตรเช้า
05.00-06.00 น. ปฏิบัติกรรมฐาน
06.00-07.00 น. บริหารกาย
07.00-08.30 น. อาหารเช้า
08.30-11.00 น. ปฏิบัติกรรมฐาน / ซักถามปัญหาธรรม
11.00-12.00 น. อาหารกลางวัน
12.45 น. พร้อมกันที่ห้องปฏิบัติธรรม
13.00-16.00 น. ฟังธรรม / ปฏิบัติธรรม
16.00-18.00 น. สรีระกิจ / น้ำปานะ
18.00-20.00 น. สวดมนต์ทำวัตรเย็น / ปฏิบัติกรรมฐาน
20.00-21.00 น. ธรรมบรรยาย
21.00 น. พักผ่อน
วันปิดการอบรม
04.00–04.30 น. ตื่นนอน / สรีระกิจ
04.30–05.00 น. ทำวัตรสวดมนต์เช้า
05.00–06.00 น. ปฏิบัติกรรมฐาน
07.00–08.00 น. อาหารเช้า
08.00-09.00 น. ประเมินผล / แสดงความรู้สึก
09.00-11.00 น. ตอบปัญหา / พระอาจารย์ให้โอวาทปิดการอบรม
- พิธีปิดการอบรม
- ขอขมาพระรัตนตรัย, พระอาจารย์
- สมาทานศีล ๕
- ถวายเครื่องไทยธรรม
จบการอบรม........กราบพระรัตนตรัย
1. มีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
2. เป็นผู้เปี่ยมด้วยศรัทธาในการปฏิบัติวิปัสสนาในแนวสติปัฏฐาน และสามารถเปิดใจยอมรับเทคนิคใหม่ๆ ในการปฏิบัติที่วิปัสสนาจารย์จะถ่ายทอดให้ ด้วยความเต็มใจ
3. เป็นผู้มีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัวก่อให้เกิดอุปสรรคในการปฏิบัติ และมีสุขภาพจิตที่เข็มแข็ง
ผู้ปฏิบัติต้องปฏิบัติตามระเบียบในการปฏิบัติ ดังต่อไปนี้
1. สามารถอยู่ปฏิบัติได้ตลอดหลักสูตร ไม่ลากลับก่อนจบโครงการ
2. รักษาศีล 8 อย่างเคร่งครัด
3. พึงเจริญสติ กำหนดรู้อาการของกาย ใจ อย่างมั่นคงและต่อเนื่องแม้ในเวลาพักผ่อน
4. เป็นผู้มีความเพียรในการสำรวมอินทรีย์ตลอดเวลา
5. ไปสอบอารมณ์ตามเวลาที่กำหนดอย่างเคร่งครัด
6. งดเว้นการพูดคุยตลอดเวลาที่กำหนดในหลักสูตรการปฏิบัติ ยกเว้นพูดกับวิปัสสนาจารย์หรือ ผู้ประสานงานโครงการเท่านั้น
หากเตือนแล้วไม่เชื่อฟัง สมาคมมีสิทธิเชิญออกจาการปฏิบัติ
7. งดเว้นการเขียน การอ่าน การฟังวิทยุเทป งดใช้เครื่องมือสื่อสารทุกชนิด
8. งดพูดคุย หรือสอบอารมณ์กันเอง
9. หากมีความไม่สบายกาย ไม่สบายใจ ให้ปรึกษาวิปัสสนาจารย์หรือผู้ประสานงานโครงการเท่านั้น
10. ไม่ออกนอกบริเวณอาคาร และสถานที่ที่กำหนดให้
11. งดพบผู้มาเยี่ยม โดยมิได้รับอนุญาตจากวิปัสสนาจารย์
12. งดสูบบุหรี่และยาเส้น
13. ไม่ยืนดื่มน้ำ ไม่ยืนรับประทานอาหาร และไม่รับประทานอาหารเสียงดัง
14. ไม่เก็บสะสมอาหารทุกชนิดในห้องพัก เพื่อป้องกันมดและแมลงต่างๆ จะมารบกวน
15. กรณีต้องการความช่วยเหลือ ให้เขียนแทนคำพูด และส่งให้ผู้ประสานงานโครงการ
16. ปฏิบัติตามระเบียบในการปฏิบัติ และระเบียบของศูนย์วิปัสสนาฯ อย่างเคร่งครัดยกเว้นกรณีที่ได้รับความเห็นชอบจากวิปัสสนาจารย์ หรือผู้ประสานงานโครงการเท่านั้น
17. ผู้ที่ไม่สามารถปฏิบัติตามระเบียบในการปฏิบัติของหลักสูตรได้ จะยินยอมออกจากการปฏิบัติโดยไม่มีข้อโต้แย้ง
1. วางความรู้เดิมทั้งหมดไว้ก่อน เพื่อรับประสบการณ์ใหม่ ๆ พึงทำตนประหนึ่งว่าท่านเป็นนักเรียนที่เพิ่งเริ่มการเรียนรู้ใหม่
2. วางภารกิจทั้งหลายไว้ก่อน อย่านำติดตัวมาให้เป็นกังวล พึงตัดความวิตกกังวลในทุก ๆ เรื่อง
3. เมื่อมาปฏิบัติธรรมพึงลืมยศศักดิ์ ฐานะ และตำแหน่งให้หมด ผู้ปฏิบัติธรรมทุกคนพึงฝึกที่จะละลดปลดวาง ความยึดติดในตัวตน และพึงระลึกไว้ว่าทุกคนมีความเท่าเทียมกัน
4. ตั้งใจปฏิบัติตามระเบียบของหลักสูตรอย่างเคร่งครัด
การเตรียมของใช้1. เตรียมเสื้อผ้ามาให้พอใช้ตลอดโครงการ เพราะท่านจะไม่มีเวลาซักรีดเอง และไม่มีบริการรับซักรีดเสื้อผ้าให้
2. ห้องปฏิบัติธรรมเป็นห้องปรับอากาศ ควรเตรียมผ้าคลุมไหล่ / เสื้อกันหนาว และถุงเท้ามาด้วย
3. เตรียมของใช้ส่วนตัว เช่น สบู่ ยาสีฟัน แปรงสีฟัน หวี ผ้าเช็ดตัว ยาประจำตัว มาเอง การแต่งกาย เพื่อแสดงความเคารพต่อ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ครูบาอาจารย์และสถานที่
ผู้ปฏิบัติพึงแต่งกายดังนี้1. สุภาพบุรุษ - สวมเสื้อผ้าชุดสีขาว และกางเกงขายาว - ไม่สวมกางเกงขาสั้น ขาสามส่วน
2. สุภาพสตรี - สวมเสื้อผ้าชุดสีขาว - สวมผ้าถุงหรือกระโปรงยาวเหนือข้อเท้า และห่มสไบ ( วันแรกขึ้นกรรมฐาน, เวลาฟังธรรม และเข้าสอบอารมณ์ )
- ระหว่างเวลาปฏิบัติ สามารถใส่เสื้อขาว สวมกางเกงขายาวไม่รัดรูป
* สุภาพบุรุษและสุภาพสตรีไม่สวมชุดนอน เสื้อผ้าสีฉูดฉาด มีลวดลายและมีตัวหนังสือบนเสื้อออกนอกห้องพัก
กำหนดการเปิด - ปิดโครงการ - วันเปิดโครงการ ลงทะเบียนเวลา 08.30 – 09.00 น.
- วันปิดโครงการ สิ้นสุดเวลา 11.00 น.
* เวลาอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม
** รับสมัครจำนวน 200 ท่าน ** ค่าใช้จ่าย
การปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานหลักสูตรนี้ มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ
ยุวพุทธิกสมาคมฯ ขอเชิญชวนผู้เข้าปฏิบัติธรรมและ ผู้มีจิตเป็นกุศลร่วมบริจาคตามกำลังศรัทธา
ติดต่อได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 0-2455-2525 โทรสาร 0-2413-3131